ชีวิตบ้านนอกที่แตกต่างจากชีวิตในเมือง

กลับมาอยู่บ้านนอกได้เกินหนึ่งสัปดาห์แล้วแต่สิ่งที่ยังไม่เคยชินก็ยังคงมีอีกหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่หลงลืมไปเพราะไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพนานเกินสิบปี
การซื้อของ
จากที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจนเคยชินกับการเลือกซื้อของที่อยากได้ตามใจ ตอนนี้การซื้อของก็ต้องเปลี่ยนไป เดิมทีจะเป็นการเลือกหยิบสินค้าที่แพ็คเอาไว้แล้วเรียบร้อยแล้วนำไปจ่ายเงิน ไม่ว่าจะเป็นเห็ด ผัก ปลาทูหรือเนื้อหมู อย่างมากก็ตักใส่ถุงแล้วนำไปชั่งที่จุดชั่ง แต่ตอนนี้ต้องบอกแม่ค้าว่าอยากได้อะไร หมูสองขีด ผักสิบบาท ไข่สิบบาท (ไข่นี่เลือกเบอร์ไม่ได้ด้วย) รูปแบบการซื้อของและการทำอาหารก็ต้องเปลี่ยนไป ก่อนนี้ผมจะซื้อของมาก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไร คือดูว่าอะไรราคาถูกอะไรลดราคาจากนั้นจึงคิดเมนู ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นคิดเมนูก่อนแล้วค่อยไปตลาด เลือกซื้อวัตถุดิบที่ต้องการแล้วค่อยนำมาประกอบอาหาร
สิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยได้พบบ่อยนักในตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพก็คือสินค้าที่เจ้าของสวนนำมาขายเองในราคาถูก เมื่อวานนี้ผมซื้อฝรั่งแป้นลูกใหญ่ห้าลูกในราคาเพียงยี่สิบบาท มีลูกหนึ่งที่ไม่ค่อยอร่อยนัก รูปทรงก็บิด ๆ เบี้ยว ๆ ไปบ้าง แต่เทียบกับฝรั่งที่มีขายในกรุงแล้วถือว่าราคาถูกกว่ากันมากเพราะเจ้าของสวนขนมาขายด้วยตัวเอง จิ้มพริกเกลือกินไปก็ไม่เลวครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้กินขนมหวานเพราะว่ามีผลไม้ให้กินเยอะ หลัก ๆ ก็ฝรั่งกับส้มครับ
สภาพแวดล้อมที่แตกต่าง
บ้านผมอยู่ติดถนนครับ ถนนลาดยางในช่วงที่พ้นจากถนนหลวงเพียงเล็กน้อย เป็นเหตุให้มีรถวิ่งผ่านหน้าบ้านเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่อยู่ใต้ตึกเงียบ ๆ ตอนนี้ก็ต้องมานั่งฟังเสียงรถ เทียบกันแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายครับ ที่น่ารำคาญคือหมาที่ชอบเห่าหอนกันตอนกลางคืน แต่ถ้าผมนอนหลับแล้วก็ไม่ได้ยินครับ ต่างจากตอนที่อยู่ในกรุงเทพเพราะหลังบ้านมักจะกินเหล้าร้องเพลงกันถึงตีสามตีสี่อยู่บ่อยครั้ง หลักฐานก็คือการนอนหลับที่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก นอนสี่ถึงห้าทุ่ม ตื่นเจ็ดโมงถึงเจ็ดโมงครึ่ง หลับสนิทดีจริง ๆ ครับ
สิ่งที่ลืมไปแล้วว่ามี
อย่างหนึ่งคือแมลงครับ ไม่คิดเลยว่าบ้านนอกจากมีแมลงมากขนาดนี้ แมลงตัวเล็ก ๆ ที่บินมาเกาะหน้าจอคอมพิวเตอร์ตอนกลางคืน แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะฝาบ้านผมนั้นมีช่องว่างและยังไม่ได้กันห้องให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ อีกอย่างก็คือหญ้าเจ้าชู้ สมัยก่อนตอนที่เรียนมัธยม หญ้าเจ้าชู้ตัวนี้แหละที่จะคอยเกาะติดถุงเท้าให้ต้องมาเสียเวลานั่งเก็บ วันนี้ใส่กางเกงวอร์มเดินไปท้ายนา กลับมามีหญ้าติดเต็ม :S
ความกว้างขวางที่ไม่ได้สัมผัสในเมืองกรุง
บ้านผมกว้างมากเลยครับถ้าเทียบกับห้องในกรุงเทพ เศษอาหาร เปลือกผักผลไม้ สามารถโยนลงไปที่โคนต้นไม้ให้เป็นปุ๋ยได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เศษกระดูกหรือเนื้อสัตว์ที่ต้องคิดหาวิธีการกำจัดไม่ให้มีกลิ่นก็โยนเข้าไปที่โคนต้นไม้ได้เลย มีอะไรให้ทำมากมายแต่เวลาไม่ค่อยมีเอาเสียเลย จัดการสวนครัวเสร็จแล้วก็จะทำอย่างอื่นต่อไปครับ
แกลอรี่


















แล้วพบกันใหม่ครับ